จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ประวัติพระครูพิพิธพัฒนพิธาน (นา)

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ตรงกับขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน๕ ปีชวด ณ บ้านเลขที่ ๒๑ หมู่ ๑๖ ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีนายกระจ่าง นางละม่อม พูดหวาน เป็นผู้ให้กำเนิด เด็กชายลำเจียก พูดหวาน ขึ้นมาเป็นบุตรคนหัวปี และยังมีน้องร่วมสายโลหิตอีก ๑ คน ครั้นต่อมาด้วยมรสุมชีวิตทำให้เด็กชายลำเจียก พูดหวาน ต้องประสบกับชะตากรรมกลายเป็นเด็กที่ต้องกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่อายุได้เพียง ๓ ขวบเท่านั้น ชีวิตก็ยังไม่สิ้นเสียทีเดียว พระครูสถิตธรรมคุณ(อาจารย์เผย) เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก ได้ให้ความเมตตาอุปการะไว้เมื่ออายุได้ ๖ ขวบ ให้การศึกษาที่โรงเรียนวัดบางหญ้าแพรกจนจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ ๔ และเมื่ออายุได้ ๑๕ ปี ท่านก็บรรพชาให้เป็นสามเณร ได้ร่ำเรียนรู้ปริยัติธรรม จนสอบนักธรรมตรีได้ และสนใจศึกษาหนังสือขอมโบราณจนอ่านออกเขียนได้ในชั้นต้นเป็นอย่างดี อยู่ต่อมาทางเดินของชีวิตก็เปลี่ยนไปจนจำต้องลาสิกขาออกมาเพื่อประกอบสัมมาอาชีพ ทำสวนเลี้ยงชีพอยู่ ๒ ปี แล้วก็ได้โยกย้ายไปอยู่จังหวัดฉะเชิงเทราอีกเป็นเวลานาน ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ นั้นเอง วาระการรับใช้ชาติก็มาถึง พลฯ ลำเจียก พูดหวาน จึงได้เข้าประจำการกองทัพเรือจนสิ้นสุดหน้าที่ก็ปลดประจำการออกมาดำเนินชีวิตผจญกับความวุ่นวายมากมาย จนอายุได้ ๒๔ ปี ก็เบื่อชีวิตในทางโลก จึงตัดสินใจ เข้าพึ่งทางรสพระธรรมหวังยึดเอาคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเครื่องดับทุกข์ตลอดไป

เมื่อวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๓ ณ . พัทธสีมาวัดบางหญ้าแพรกอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ นายลำเจียก พูดหวาน ก็ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ลำเจียก ธมฺมธีโร โดยมีนายหลง – นางทับ พ่วงเชย (โยมอา) เป็นเจ้าภาพจัดงานอุปสมบท มีพระบวรวิมุต วัดไพรชยนต์พลเสมเป็นพระอุปัชฌา พระครูสถิตธรรมคุณ (อาจารย์เผย) วัดบางหญ้าแพรก เป็นพระกรรมวาจา พระครูสุวรรณสมุทร (พระอาจารย์ทองหล่อ) วัดครุใน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ในขณะที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดบางหญ้าแพรกนั้น ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างแน่วแน่ ปฏิบัติกิจวัตรของสงฆ์อย่างเคร่งครัดและยังมีความสามารถแสดงพระปาฏิโมกข์ได้อย่างแม่นยำภายในหนึ่งพรรษา พรรษาที่สองได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดบางด้วน (นอก) ตำบลบางด้วน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ท่านก็ยังได้ศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ และปฏิบัติธรรมวินัยเรื่อยมาจนสิ้นพรรษา พอย่างเข้าพรรษาที่สาม ก็ได้ติดตามท่านพระอาจารย์หล่ำ สิริธมฺโม ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดไกสีห์น้อย ตำบลหัวหมาก อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ถึง ๓ พรรษา ในช่วงเวลานั้นเอง ท่านก็ได้เริ่มศึกษาเล่าเรียนอย่างจริงจัง ด้วยความมานะบากบั่น ดังที่ได้ตั้งปฎิทานไว้ในใจ ท่านได้ศึกษา หนังสือขอมโบราณ วิชาอาคมต่างๆ ตำรายาแผนโบราณ วิปัสสนากรรมฐาน และวิชาโหราศาสตร์(บางแขนง) ท่านมีความสามารถในการเรียนรู้อย่างรวดเร็วและเข้มขลัง ท่านได้ออกธุดงควัตรปฏิบัติวิเวก ติดตามพระอาจารย์ของท่านตลอดเวลามิได้ขาด จนกระทั่งต่อมา ในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดใน (เดิม) สองวิหาร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ และพระอารามแห่งนี้ได้ส่งเสริมให้ พระอาจารย์ลำเจียก ธมฺมธีโร ได้เป็นพระนักพัฒนา และทำให้ที่พักสงฆ์คลองบางปิ้งในอดีตนั้นเจริญรุ่งเรื่องเป็นที่เชิดหน้าชูตาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จนได้ยกฐานะเป็น “วัด” โดยสมบูรณ์

ในด้านการศึกษา ทางวัดได้เปิดสอนพระปริยัติธรรม เริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๐ นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนการศึกษาของชาติ โดยให้ทางราชการสร้างโรงเรียนคลองบางปิ้งในวัดอีกด้วย

พระครูพิพิธพัฒนพิธาน หรือ พระอาจารย์นา ซึ่งเป็นดังหลักชัยของวัดบางปิ้ง และบรรดาลูกศิษย์ลูกหานั้น ท่านได้เริ่งอาพาท(ป่วย) ด้วยโรคอัมพาตและได้เข้ารับการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลจนอาการดีขึ้นเกือบเป็นปกติ และได้บริหารงานพระศาสนาเรื่อยมาเป็นอย่างดียิ่ง จนกระทั่งท่านได้มีอาการกำเริบขึ้นอีก และได้ถึงแก่มรณะภาพด้วยโรคระบบประสาทล้มเหลว ณ โรงพยาบาลวชิระปราการ (โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล สมุทรปราการ ในปัจจุบัน) ตำบลบางเมือง อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อ วันเสาร์ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๗ เวลาประมาณ ๐๖.๐๐ น. สิริรวมอายุได้ ๕๘ ปี พรรษา๓๔

ไม่มีความคิดเห็น: